การพัฒนาไม่มีวันสิ้นสุดตราบเท่าที่ยังหายใจ เพราะมันไม่ใช่อะไรที่ยุ่งยาก แต่เป็นอะไรที่ต้องใส่ใจกับสิ่งรอบๆ ตัว
วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
ว่าด้วยเรื่องของคนหมดไฟ
ปัญหาการบริหารบุคลากรที่สำคัญในปัจจุบัน คือ การที่องค์กรไม่สามารถที่จะรักษาทรัพยากรบุคคลที่มีความาสามารถไว้กับหน่วยงานได้ หรือที่ใครๆ เรียกว่า "สมองไหล" เหตุผลที่ทำให้องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนต้องสูญเสียบุคลากรที่ดีไปนั้น เนื่องจากเหตุผลหลากหลายประการมากมายเสียจนไม่อาจจะกล่าวได้หมดในบทความเดียวกัน แต่ก็พอจะสรุปแบบเน้นๆ ได้ว่า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็นำมาซึ่งอาการเดียวกันหมดนั่นคือ "อาการหมดไฟ"
"อาการหมดไฟ" มักเกิดกับบุคลากรที่สิ้นหวังกับองค์กร โดยส่วนมากจะคิดว่า การทุ่มเททำงาน (จริงๆ จะทุ่มเทอย่างที่คิดหรือเปล่าก็ไม่รู้ 555) แต่กลับไม่ได้รับการตอบแทนจากองค์กรอย่างเหมาะสม ทำให้เกิดความรู้สึกซังกะตาย เบื่อหน่าย ขี้เกียจจะพัฒนา และเริ่มมองหาข้อเสียของคนอื่นๆ เป็นงานอดิเรก เป็นต้น
ซึ่งท้ายสุดเมื่อถึงระยะสุกงอมของอาการนี้ ก็จะทำให้บุคลากรคนนั้นสิ้นเยื่อใยกับหน่วยงานเดิมและพยายามหาหนทางสร้างสุขใหม่ๆ ให้กับชีวิตของตน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนที่ทำงาน หรือในหลายกรณีไปประกอบอาชีพที่ตนใฝ่ฝัน เช่น เปิดร้านกาแฟดริฟ การทำขนมเค๊กขายออนไลน์ เป็นต้น
ความเป็นจริงแล้ว ปัญหาเรื่อง "การหมดไฟในการทำงาน" ก็ขึ้นอยู่กับแต่องค์กรว่าจะให้ความสำคัญกับมันขนาดไหน? จะมองว่าเป็นเพียงปัญหาส่วนตัวประเภท "หมาป่าเดียวดาย" หรือเป็นปัญหาใหญ่ที่หน่วยงานต้องหากลยุทธ์เพื่อแก้ไข ก็ขึ้นอยู่กับ "Vision" ของผู้มีอำนาจในองค์กรนั้นๆ ไป
อ้าวงี้แล้วองค์กรจะทำไงหล่ะถึงจะดึงคนให้อยู่กับองค์กรได้ และสร้างแรงบันดาลใจเสริมไฟในการทำงานให้ลุกโชนโชดช่วงประหนึ่งไฟคบเพลิงกีฬาโอลิมปิคอยู่ตลอดเวลา คำตอบคือ องค์กรอาจต้องเริ่มจากการรับรู้ถึงสภาพความเป็นจริงว่า "อะไรคือสิ่งที่องค์กรมี ตระหนังถึงสิ่งที่องค์กรขาด มองโอกาสที่องค์กรจะได้ และเข้าใจอุปสรรคที่เกิดขึ้น"
หรือพูดภาษาคนง่ายๆ คือต้องวิเคราะห์ SWOT ขององค์กร หรือจะใช้เครื่องมืออื่นๆ เช่น Tree Problem เป็นต้น ในการวิเคราะห์องค์กร เพื่อหาจุดบอดที่ต้องแก้ไข ให้องค์กรสามารถพัฒนาบรรยากาศการทำงานให้เกิด "Happy Work Place" อันเป็นสิ่งที่จะเติมไฟในการทำงานให้กับบุคลากรได้
หากวันนี้องค์กรต้องการรักษาบุคลากรคนนั้นไว้ ก็ต้องเข้าใจบุคลากร มิใช่สร้างปัญหาให้บุคลากรจริงไหม? การสร้างบรรยากาศ การให้รางวัล การสร้างความสำคัญเชิงจิตวิทยา เป็นต้น สิ่งเหล่านี้หัวหน้างาน เอยผู้บริหารองค์กรเอยสามารถปฏิบัติได้ทั้งสิ้น และส่งผลโดยตรงต่อบุคลากรอย่างมีนัยสำคัญ แต่ปัญหาคือ หัวหน้างาน หรือผู้บริหาร ให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากันระหว่างการรักษาบุคลากรกับรักษาทิฐิในตัวเอง
แต่หากอาการหมดไฟมิได้เกิดจากองค์กร แต่เกิดจากความรู้สึกส่วนตัวของบุคลากรเอง ทั้งที่งานก็ดีเป็นที่อิจฉาแต่กลับยังรู้สึกถดถอยไม่อยากทำอะไรอีก หากเรายังคงต้องการมีชีวิตที่สดใสมากกว่ากลายสภาพเป็นซากจิ้งจกถูกหน้าต่างหนีบ ก็จำเป็นต้องหัดทำ 2 ประการ โดยด่วน คือ
1. เลิกมองแง่ร้าย
2. ใส่ใจแต่แง่ดี
เพราะหากเราสามารถรักษาพื้นที่ความคิดไว้ในแดนบวกได้แล้ว อาการหมดไฟจะไม่สามารถกล้ำกลายจิตใจของเราได้เลย
สุดท้ายหากเราใช้สติคิดดีๆ ทุกๆ ที่ที่มีคนอยู่ เราจะพบเจอปัญหามากมายเสมอ เพียงแต่ในทุกๆ เรื่องราวไม่ว่าร้ายหรือดี มันก็มีด้านที่ดีรวมอยู่ด้วยไม่ว่ามากหรือน้อย หากเรารู้จักให้ความสำคัญกับด้านดี และรู้จักลืมๆ ด้านแย่ๆ ก็อาจจะทุเลาอาการหมดไฟได้ หรืออาจทำให้ไฟในการทำงานกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
วันนี้องค์กรคงต้องพิจารณาว่า "อาการหมดไฟ" ที่เกิดขึ้นกับคนในองค์กร เกิดจากปัญหาส่วนตัว หรือปัญหาเชิงระบบ เพราะหากเกิดจากบุคคลอาจจบปัญหาลงโดยง่าย (ไม่ว่าจะจบแบบสวยงามหรือโหดร้ายก็ตามที) แต่หากเกิดจากองค์กรมันจะไม่จบเพียง 1 - 2 ราย แต่อาจกลายเป็นจุดเริ่มของจุดจบสำหรับองค์กรเพียงเพราะความไม่ใส่ใจในการบริหารงานบุคคลก็เป็นได้
บทความโดย : T-korn Charoenchan
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
จุดไฟในการทำงานด้วยการคิดบวก
เคยไหมที่พอถึงวันอาทิตย์แล้วมีความคิดว่า เฮ้อวันพักผ่อนหมดไปอีกละ หรือ ฉันไม่อยากตื่นไปทำงานเลย หรือ ทำไม่ไม่ข้ามไปวันศุกร์เลย ฯลฯ สิ่งนี้...

-
วงจรแห่งการพัฒนาคุณภาพองค์กร "PDCA" คือ แนวคิด หรือวงจรการบริหารงานคุณภาพชนิดหนึ่งที่ถูกคิดค้นขึ้นโดย วอล์ทเตอร์ ซิวฮา...
-
การพัฒนาทุนมนุษย์ เป็นกระบวนการที่ดำเนินการเพื่อให้เกิดการพัฒนาทุนมนุษย์ ให้มีศักยภาพพร้อมสำหรับการปฏิบัติงานตามภารกิจที่องค์กรมอบหมา...
-
"KPI" เครื่องมือการวัดผลสู่การพัฒนาบุคลากรอย่างเป็นรูปธรรม การพัฒนาคุณภาพประสิทธิภาพ คือโจทย์สำคัญในการสร้างหลักประกันใ...